You are on page 1of 3

บทที่ 4

ตลาดการเงิน สถาบันการเงิน และอัตราดอกเบี้ย

ตลาดการเงิน (Financial Markets) คือ สถานที่ซึ่งบุคคลและองค์การต่าง ๆ ที่ต้องการกู้เงินมาพบกับ


ผู้ที่มีเงินให้กู้
ประเภทของตลาดการเงิน
ลำาดับ ตลาด ลักษณะตลาด
1 Physical asset market (Tangible, Real asset ซื้อ – ขาย สินทรัพย์ที่มีตัวตน เช่น ที่ดิน อาคาร
markets)
Financial asset market ซื้อ – ขาย หุ้นสามัญ, หุ้นกู้, พันธบัตร, ตราสารอนุพันธ์
2 Spot market ซื้อ – ขาย สินทรัพย์ที่ ส่งมอบ กันทันที
Future market ซื้อ – ขาย สินทรัพย์วันนี้แต่ ส่งมอบ กันในอนาคต
3 Money market (ตลาดเงิน) ซื้อ – ขาย หลักทรัพย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี เช่น ตั๋วเงินคลัง
Capital market (ตลาดทุน) ซื้อ – ขาย หลักทรัพย์ที่มีอายุเกิน 1 ปี เช่น หุ้นสามัญ, หุ้นกู้
พันธบัตรรัฐบาล
4 Primary market (ตลาดแรก) ซื้อ – ขาย หลักทรัพย์ที่ออกจำาหน่ายครั้งแรก
Secondary market (ตลาดรอง) ซื้อ – ขาย หลักทรัพย์ระหว่างกันหลังจากที่ออกจำาหน่าย
ครั้งแรกแล้ว
5 Initial Public Offering market (IPO) เป็นตลาดย่อยของตลาดแรก เสนอขายหุ้นให้กับมหาชน
Private market ซื้อ – ขาย หลักทรัพย์ โดยตรง แก่สถาบัน / บุคคลซึ่งได้
กำาหนดไว้แล้ว
Public market ซื้อ – ขาย หลักทรัพย์แก่มหาชน
6 Mortgage market ตลาดที่เกี่ยวกับการจำานองสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง เช่น
ที่ดิน อาคาร
7 Consumer credit market ตลาดที่ให้เช่าซื้อเพื่อเกี่ยวกับการให้กู้เพื่อซื้อ, เพื่อท่อง
เที่ยว
8 World, national, regional and local market เป็นตลาดที่แบ่งขนาดตามขอบเขตการดำาเนินของแต่ละ
บริษัท เช่น กู้ยืมเงินต่างประเทศ ก็เป็น World market

สถาบันการเงิน (Financial Institutions) คือ สถาบันที่ทำาหน้าที่รวบรวมเงินออมจากผู้มีเงินออม แล้วนำาไป


จัดสรรให้แก่ผู้ที่ต้องการใช้เงิน รวมถึงการอำานวยความสะดวกในตลาดการเงิน เช่น การเป็นตัวกลางทำาหน้าที่ ซื้อ – ขาย
หลักทรัพย์ เป็นต้น
ตลาดหลักทรัพย์ (The Stock Market) เป็นสถาบันที่เด่นที่สุดในตลาดรอง (Secondary market) แบ่งเป็น
1. ตลาดหลักทรัพย์แบบมีระบบ (Organized Security Exchanges) คือ ตลาดหลักทรัพย์ที่สถานที่
ตั้งแน่นอน มีสมาชิกจำากัดจำานวน มีห้องค้า เพื่อทำาการซื้อ – ขาย
2. ตลาดหลักทรัพย์แบบไม่มีระบบ (Over –The – Counter : OTC)
ต้นทุนของเงิน (The Cost of Money)
- ต้นทุนของหนี้สิน ดอกเบี้ย
- ต้นทุนของส่วนของเจ้าของ เงินปันผลและกำาไรจากการขายหุ้น
***องค์ประกอบของอัตราดอกเบี้ยของตลาด***
k = k* + IP + DRP + LP +MRP

โดย k อัตราทีผ่ ลตอบแทนที่กำาหนดไว้ หรือ อัตราดอกเบี้ยที่ต้องการ


k* อัตราดอกเบี้ยที่ปราศจากความเสี่ยงและไม่รวมอัตราเงินเฟ้อ
IP ส่วนชดเชยความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
kRF อัตราดอกเบี้ยของหลักทรัพย์รัฐบาล = k* + IP (RF = Risk-Free Rate)
DRP ส่วนชดเชยความเสี่ยงจากการไม่สามารถชำาระหนี้ได้ตามกำาหนด
LP ส่วนชดเชยความเสี่ยงจากสภาพคล่อง
MRP สวนชดเชยความเสี่ยงจากระยะเวลาครบกำาหนดไถ่ถอน
อธิบาย
IP มีผลต่ออัตราดอกเบี้ยมาก เพราะ ทำาให้กำาลังซื้อและอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงลดลง เป็นอัตรา
เงินเฟ้อเฉลี่ยที่คาดไว้ตลอดอายุหลักทรัพย์
DRP ถ้า DRP เพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นด้วย
LP สภาพคล่อง หมายถึง การเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็วในราคาตลาดที่ยุติธรรม ดังนั้น ถ้าหลักทรัพย์ใด
ขายได้ช้า อัตราดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
MRP หลักทรัพย์ระยะยาวจะมีความเสี่ยงเนื่องจากระยะเวลา เพราะเมื่อดอกเบี้ยในท้องตลาดสูงขึ้น
พันธบัตรระยะยาวจะมีราคาลดลง เรียกว่า ความเสี่ยงเนื่องจากอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น หลักทรัพย์
ระยะยาวจึงมี MRP สูงกว่าหลักทรัพย์ระยะสั้น
ความเสี่ยงของหลักทรัพย์แต่ละประเภท
ประเภทหลักทรัพย์ IP DRP LP MRP
หลักทรัพย์รัฐบาลระยะสั้น 
หลักทรัพย์รัฐบาลระยะยาว  
หลักทรัพย์เอกชนระยะสั้น   
หลักทรัพย์เอกชนระยะยาว    

Yield Curve Yield Curve คือ กราฟที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างอัตรา


Interest Rate (%) ผลตอบแทนของหลักทรัพย์กับอายุครบกำาหนด แบ่งเป็น
 Inverted (Abnormal) Yield Curve – มีลักษณะเป็น
Downward-sloping หลักทรัพย์ระยะสั้นมีอัตราดอกเบี้ยสูง

ว่าหลักทรัพย์ระยะยาว

  Humped Yield Curve - หลักทรัพย์ระยะสั้นและระยะ
ยาวมีอัตราดอกเบี้ยไม่ต่างกันมากนัก
 Normal Yield Curve – มีลักษณะเป็น
Year to Maturity
Upward-sloping หลักทรัพย์ระยะสั้นมีอัตราดอกเบี้ยตำ่ากว่า
หลักทรัพย์ระยะยาว
ปัจจัยที่กำาหนด Yield Curve
พันธบัตรรัฐบาล เนื่องจากพันธบัตรรัฐบาลไม่มีความเสี่ยง DRP และ LP จึงได้สมการ ดังนี้
kt = kt* + IPt + MRPt

พันธบัตรเอกชน เนื่องจากพันธบัตรของเอกชนมีความเสี่ยงครบทุกตัว จึงได้สมการ ดังนี้


kCt = kt* + IPt + DRPt + LPt +MRPt

ตัวอย่าง
พันธบัตรรัฐบาล อายุ 7 ปี ให้ kt* = 3% อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ = 3 % ปีหน้า = 4 % ปีต่อ ๆ ไป = 3.5 %
MRPt = 0.0005 (t-1) โดย t = จำานวนปีครบกำาหนดไถ่ถอน
ให้หาอัตราผลตอบแทนที่ต้องการ
วิธีทำา
จากสมการ kt = kt* + IPt + MRPt
kt* = 0.03
IPt = 0.03 + 0.04 + 5(0.035) = 0.035
7
MRPt = 0.0005 (7-1) = 0.003
 kt = 0.03 + 0.035 + 0.003 = 0.068 = 6.8% Ans

การลงทุนในต่างประเทศ
1. Country Risk คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุนหรือการดำาเนินธุรกิจในแต่ละประเทศ
ความเสี่ยงประเภทนี้ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของแต่ละประเทศ
2. Exchange Rate Risk คือ ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ย
1. นโยบายของธนาคารกลาง
2. นโยบายการคลัง คือ นโยบายเกี่ยวกับรายรับ – รายจ่ายของรัฐบาล ว่าจะเกินดุล หรือ ขาดดุล
3. ระดับกิจกรรมทางธุรกิจ
4. ปัจจัยด้านต่างประเทศ เช่น ถ้าประเทศขาดดุลการค้า ก็จะต้องหาเงินมาชดเชย โดยการกู้ยืม
เมื่อต้องกู้ยืมเงินเพิ่มอัตราดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้น เป็นต้น

You might also like