Professional Documents
Culture Documents
นายแพทย์อนุชิต กิจธารทอง
ดั ง นั น
้ เมื่อแสงกระตุ้ น retina จะทำา ให้ pupil ด้ านเดี ยวกั นหด
ตัวเรียก direct light reflex และจะทำา ให้ pupil ด้านตรงข้ามหดตั ว
ด้วยเรียก consensual light reflex
Afferent pupillary defect
ในผู้ป่วยทีม
่ ีโรคทางจอประสาทตาหรือเส้นประสาทตาเสีย
ทัง้ หมด จะทำาให้มีความผิดปกติของ light reflex แต่ consensual
รู ป ที ่ 2 ภ า พ แ ส ด ง ผ ล ก า ร ต ร ว จ RAPD
positive ในตาซ้าย
การวินิจฉัย
1. direct light reflex, consensual light reflex ถ้าผิดปกติแปล
ว่ามีรอยโรคที ่ retina ถึง optic nerve (เสียทัง้ หมด)
2. relative afferent pupillary defect (RAPD, Marcus Gunn
pupill) ถ้าผิดปกติ (positive) แปลว่า มีรอยโรคที ่ macula ถึง optic
nerve และในกรณีเป็ นโรคทัง้ 2 ข้าง แปลว่า มีรอยโรคทีร่ ุนแรงกว่า
อีกข้าง
Visual
Pin hole
Improve Not improve
Refractive error Pen light
Abnormal Normal
Red reflex
Opacity of
cornea, Anterior
Abnormal Normal
Cataract, Vitreous RAPD
opacity, Retinal
Positive
Negative Macula to
prechiasmatic optic
Fundus examination
(อ า จ จ ะ ห ย อ ด ย า
ขยายม่านตา)
Abnormal findings
Retinal
Normal
Visual field
Abnormal Normal
- Chiasmatic to -
occipital lobe lesion Amblyopi
การรักษา
1. Refractive error
หลั ก การรั ก ษาคื อ ปรั บ แสงโฟกั ส ให้ ต กบนจุ ด รั บ ภาพเป็ นจุ ด
เดียว เช่น
1.1 Glasses
1.2 Contact lens โดยในกลุ่ม
- myopia ใ ช้ concave lens (minus lens,
เลนส์เว้า)
- hyperopia ใช้ convex lens (plus lens, เลนส์นูน)
- astigmatism ใช้ cylinder lens (เลนส์ทรงกระบอก)
1.3 Refractive surgery
เป็ นการผ่าตั ดเพื่อเปลีย
่ นจุ ดโฟกั สให้ต กบนจุ ดรั บ ภาพ
โดยไม่จำาเป็ นต้องใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป ซึ่งใน
ปั จจุ บั น ที ย
่ อมรั บ คื อ การใช้ เ ลเซอร์ เพื่อ เปลี ย
่ นความโค้ ง ของ
กระจกตา มีอยู่ 2 วิธีคือ
1. LASIK (Laser in-situ keratomileusis)
2. PRK (Photorefractive keratectomy)
2. Opaque optical media
หลักการรักษาคือ ทำา ให้ optical media กลับมาใช้เหมือนเดิม
การรักษาจึงแตกต่างกันในแต่ละโรค เช่น
corneal abrasion รักษาโดย pressure patch
blunt traumatic hyphema รักษาโดย bed rest
cataract รักษาโดย cataract extraction with
IOL
สิง่ ทีส
่ ำาคัญทีส
่ ุด คือ การรักษาเบือ
้ งต้น ซึง่ ปฎิบัตเิ หมือนกันใน
ผู้ป่วยทุกคน ดังนี ้
1. copious irrigation
หยอดยาชา, ใช้ lid speculum เปิ ดตา, รีบล้างด้วยนำา
้ สะอาดทีห
่ า
ได้ในทันที เช่น saline, RLS หรือแม้แต่นำา
้ ประปา นาน 30 นาที
หรือ 2 ลิตร จนกระทัง่ PH เป็ นกลาง (7.2-7.4) และควรตรวจ
PH อีกครัง้ หลัง 30 นาที
2. พยายามหยิบเอาสิง่ แปลกปลอม และเนือ
้ เยือ
่ ทีต
่ ายออก
3. ประเมินความรุนแรง
3.1 ถ้ามี limbal ischemia มากกว่า 1/3 ของเส้นรอบ
กระจกตา ให้ส่งต่อจักษุแพทย์ทันที
3.2 มี limbal ischemic น้อยกว่า 1/3 และกระจกตาใส
ให้ - ยาหยอดสเตียรอยด์ วันละ 4 ครัง้ นาน 1
สัปดาห์
- ยาหยอดปฎิชีวนะ วันละ 4 ครัง้
ถ้าไม่ดีขึน
้ ภายใน 1 สัปดาห์ ให้ส่งต่อจักษุแพทย์
4. ในกรณีทีไ่ ม่ทราบว่าเป็ นสารเคมีอะไร อันตรายต่อดวงตาหรือไม่
ให้สันนิฐานว่าเป็ นสารอันตรายไว้ก่อน
2. Central retinal artery occlusion
การวินิจฉัย
1. มักพบในผู้สูงอายุ ทีม
่ ีปัญหาหลอดเลือดและหัวใจ
2. อาการ : acute painless unilateral visual loss
2. อาการแสดง :
ข้อควรระวัง
คือ ภาวะการติดเชือ
้ (corneal ulcer) ซึง่ ผู้ป่วยจะปวดตามาก
ขึน
้ มีขต
ี ้ ามาก ตรวจพบ ขอบแผลขุ่นมีสีขาว (corneal infiltration)
ขอบแผลไม่เรียบ และอาจมีหนองในช่องตาส่วนหน้า (hypopyon)
ซึง่ แนะนำาให้ส่งต่อจักษุแพทย์
3.2 Traumatic hyphrma
การวินิจฉัย
ตรวจพบเลือดในช่องลูกตาส่วนหน้า
การรักษา
1. รับไว้ในโรงพยาบาล
1. ให้ยาลดความดันตา
1.1 Topical beta blocker เช่น 0.5 % Timol eye drop
1.2 Carbonic anhydrase inhibitor เช่น acetazolamide
(250 mg) 2 เม็ด
1.3 Osmotic agent เช่น glycerine 1 cc/kg โดยผสม
นำา
้ ส้ม 1 : 1 ค่อย ๆ ดืม
่
2. ส่งต่อจักษุแพทย์ทันที
5. Retinal detachment
การวินิจฉัย
ผู้ป่วยมีอาการตามัวคล้ายมีมา
่ นมาบังตา โดยไม่ทราบสาเหตุ
และ VA แย่ลงเมือ
่ มี macular detachment อาจมีประวัติ flashing
floater ตรวจพบมี abnormal red reflex มีลักษณะเป็ น grey reflex
พลิว้ ไปมา อาจมี RAPD positive ในกรณีทีม
่ ี macular
detachment ด้วย ตรวจจอประสาทตาพบ membrane สีขาวทีม
่ ี
เส้นเลือด (retinal vessels) พลิว้ ไปมา
การรักษา
ส่งต่อจักษุแพทย์
------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------- The end
Reference