Professional Documents
Culture Documents
ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ธวัช ตันติสารศาสน์
ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลา
นครินทร์
เวลาทีแ
่ พทย์เวชปฏิบต
ั ิทัว
่ ไปต้องเผชิญกับภาวะเร่งด่วนทางตา
นัน
้ สิง่ สำาคัญทีส
่ ุด คือการแยกโรคที ่ ร้ายแรงกับ
โรคทีไ่ ม่ร้ายแรงออกจากกัน โรคทีไ่ ม่มีความร้ายแรงสามารถให้การ
รักษาไปได้เลยส่วนโรคทีร่ ้ายแรงต้องให้การรักษาเบือ
้ งต้นและรีบส่ง
ต่อแพทย์เฉพาะทางหรือโรงพยาบาลทีม
่ ีความพร้อมกว่าโดยเร็ว
ผ้ป
้ ่ วยโรคตาทีเ่ ป็ นกรณีฉุกเฉิน เราสามารถแบ่งอย่างง่าย ๆ ว่า
จำาเป็ นต้องรีบด่วนมากน้อยเพียงใด ได้ดังนี ้
1. True emergency พบในกรณีสายตาลดลงมากหรือ
ปวดตามากทันทีทันใด ผ้้ป่วยจำา เป็ นต้องได้รับการรักษา
อย่างรีบด่วนทันที ในเวลาเป็ นนาท ี ตัวอย่างเช่น
1.1 สารเคมีเข้าตา
1.2 Central retinal artery occlusion
2. Very urgent situations พบในกรณี trauma, ตามัว
หรือมีอะไรในตา ผ้้ป่วยจำาเป็ นต้องได้รับการรักษาในเวลา
ไม่กีช
่ ัว
่ โมง ตัวอย่างเช่น
2.1 Perforation or ruptured globe
2.2 Acute glaucoma
2.3 Sudden congestive proptosis เ ช่ น จ า ก
orbital hemorrhage
2
ขูอบ่งชีใ้ นการส่งต่อจักษุแพทย์
ประวัติดังต่อไปนี ้
1. ตามัวลง
2. มองเห็นภาพบิดเบีย
้ ว (metamorphopsia)
3. ลานสายตาแคบลงหรือหายไป
4. มองเห็นภาพซ้อน
5. เ ห็น เ ง า ดำา ล อ ย ไ ป ม า (floater) หรื อ เ ห็น แ ส ง ไ ฟ
แลบ(flash of light)
6. สารเคมีเข้าตาโดยเฉพาะพวกด่างหรือกรดทีร่ ุนแรง
การตรวจพบทางตาดังต่อไปนี ้
1. สายตาลดลง หรือลานสายตาแคบลง
2. ตาทะลุหรือแตก
3. เปลือกตาฉีกขาดบริเวณขอบตา, ถ้กทางเดินนำ้าตา
หรือทำาให้หนังตาตก
4. วั ต ถุ แ ปลกปลอมฝั งกระจกตาที ม
่ ี ข นาดใหญ่ ห รื อ
สงสัยว่าอย่ใ้ นตา
5. ภายในล้กตามีการอักเสบ
6. ร้ม่านตาไม่กลมหรือไม่มีปฏิกิริยาต่อแสง
7. Relative afferent pupillary defect
8. กลอกตาไม่ได้
9. มองเห็นภาพบิดเบีย
้ ว (จาก amsler grid)
10. เลือดออกในนำา
้ วุ้นล้กตา
11. ตรวจไม่ พ บอะไรผิ ด ปกติแ ต่ผ้ ป่ วยยัง บ่ น เรื่อ งตามั ว
หรือปวดตา
หลักทัว
่ ไปในการ approach ocular emergency
1. ลดอาการปวด (ถ้ามี) โดยหยอดยาชา (tetracaine eye
drop) เพือ
่ ให้ผ้ป่วยสามารถลืมตาได้เอง และ ลด
blepharospasm
2. ซักประวัติโดยถามลักษณะของ injury, เวลาทีเ่ กิด,
อาการปวดตา, ตามัว, อาการคล้ายมีวัตถุแปลกปลอมในตา
เป็ นต้น
3. ตรวจตาโดยใช้ไฟฉายทีส
่ ว่างประกอบกับเลนส์ขยายจะ
ช่วยได้มาก และบันทึกสิง่ ตรวจพบให้ละเอียด
4. กรณีผ้ป่วยเด็กให้นัง่ ตักแม่และต้องพยายามอดทน พร้อม
กับใช้การสังเกตุให้มากทีส
่ ุดก่อนสัมผัสเด็กซึง่ อาจจะร้องได้
ง่าย อาจใช้ของเล่นหลอกล่อ บางครัง้ อาจจำาเป็ นต้องใช้ผ้า
ห่อตัวเด็ก และใช้ eye speculum หรือ retractor แต่ในกรณี
ต่อ ไปนีจ
้ ะกล่า วเฉพาะ true emergency, very urgent situations
และ urgent situations, semiurgent situations บางโรคเท่านัน
้
การรักษา
1. หยอดยาชา
2. ล้างตาทันที ด้วย NSS นาน 15 - 30 นาที
3. พลิกเปลือกตาและล้างบริเวณ fornix
4. ตรวจด้ pH หลังล้างตาจนได้ pH 7.0
5. กรณีมเี ศษสารเคมีในบริเวณ fornix ให้ใช้ไม้พันสำาลีทำาให้
ชุ่มด้วย NSS พยายามกวาดในช่อง fornix ทัง้ บนและล่าง
6. วัดสายตา
7. debride กระจกตาทีต ่ ายออกด้วยไม้พันสำาลีปราศจาก
เชือ
้ ทำาให้ชุ่มด้วยยาหยอดตาปฏิชีวนะ
8. ประเมินด้ความรุนแรง โดยด้จากความใสของกระจกตา
และ limbal ischemia Roper Hall
แบ่งความรุนแรงของสารเคมีเข้าตา ออกเป็ น
อุบัติเหตุต่อตา
ปั จจุบัน Birmingham eye trauma Terminology (BETT) ได้
ให้คำาจำากัดความต่าง ๆ ทีเ่ กีย ่ วกับอุบตั ิต่อตา เป็ นทีย
่ อมรับกันอย่าง
กว้างขวางและมีประโยชน์ในการทีจ ่ ะให้คำาจำากัดความเกีย ่ วกับ
ภยันตรายทุกชนิด เพือ ่ ให้เป็ นระบบและทุกคนสามารถใช้สือ ่ กันได้
อย่างเข้าใจ นอกจากนีว้ ารสารบางเล่มได้ยอมรับให้เป็ นมาตรฐาน
อีกด้วย เช่น Journal of eye trauma, Ophthalmology
คำาและคำาจำากัดความ
Eye wall sclera and cornea
Closed globe injury no full-thickness of eye wall
Open globe injury Full thickness wound of eye wall
Contusion There is no (full thickness) wound
Lamellar laceration Partial-thickness wound of eye
ball
Rupture Full thickness wound of the eye wall,
caused by a blunt object
Laceration Full thickness wound of eye wall,
caused by a sharp object
Penetrating injury Entrance wound, retained foreign
objects
Perforating injury Entrance and exit wounds
จากคำานิยามของ BETT และการสนับสนุนการวิจัยของ
National center for injury Prevention ของสหรัฐอเมริกา ได้มี
การพัฒนานำา Ocular trauma score เพือ
่ ใช้พยากรณ์โรค หลัง
เกิดอุบต
ั ิเหตุต่อตา ดังนี ้
Initial vision
มองไม่เห็นแสง 60
เห็นแสง/เห็นมือไหว 70
ๆ 80
1/200 - 19/200 90
20/200 - 20/50 100
≥20/40 -23
Rupture -17
Endophthalmitis -14
Perforating injury -11
Retinal detachment -10
Afferent pupillary defect
ถ้กกระแทกโดยของไม่มีคม
ของมีคมหรือวัตถุแปลกปลอมเข้าตา
เปลือกตาฉีกขาด
อาการแสดงสำาคัญ เปลือกตาฉีกขาด
แพทย์ทัว
่ ไปควรตรวจด้ว่า
1. มีผนังล้กตาฉีกขาดร่วมด้วยหรือไม่
2. ตรวจด้ว่าเปลือกตาฉีกขาดถึงขอบตา, โดนทางเดินท่อ
นำา
้ ตา หรือโดน levator muscle หรือไม่
การรักษา
1. ถ้ามีความผิดปกติอืน
่ ร่วมดังข้างต้น ให้ส่งต่อจักษุแพทย์
2. ถ้าไม่มีความผิดปกติอืน
่ ร่วม สามารถเย็บแผลเองได้
3. นัดตัดไหม 5 วัน
เลือดออกช่องหนูาตา (hyphema)
มักเกิดจากวัตถุทือ
่ กระแทกเบ้าตา หรือ จากการเล่นกีฬา
อาการ ปวดตา ตามัว ตาแดง
อาการแสดงสำาคัญ เลือดในช่องหน้าตา (บางรายเป็ นน้อย
มาก มีแค่เม็ดเลือดแดงในช่องหน้าตาซึง่ ต้อง
อาศัย Slit lamp biomicroscope ในการตรวจ
วินิจฉัย เรียกว่า microscopic hyphema)
อาการแสดง สายตาลดลง, อาจมีความดันส้ง
การตรวจเพิม
่ เติม 1. ตรวจด้ให้แน่ใจว่าไม่มีผนังล้กตาฉีกขาด
2. บันทึกระดับของเลือดในช่องหน้าตาเป็ นค่าเบือ
้ ง
ต้น
การรักษา1. รับไว้ในโรงพยาบาล
2. นอนหัวส้ง 30 องศา
3. ครอบ eye shield ตาข้างทีเ่ ป็ น
4. หยอดยาตา 1% atropine BID
5. Aminocaproic acie (amicar ) PO 50 mg/kg ทุก 4
R
ชัว
่ โมง 5 วัน เพือ
่ ป้ องกัน secondary bleeding
6. ให้ยาแก้ปวด acetaminophen เมือ
่ จำาเป็ น ห้ามให้
แอสไพริน หรือ NSAID
7. ยาลดความดันตา เช่น topical beta-blocker BID หรือ
acetazolamide (250 mg) QID ในกรณีความดันตาส้ง
มากให้ oral หรือ intravenous hyperosmotic agent
เช่น glycerin 1 cc/kg oral, manitol intravenous 1
gm/kg
8.ส่งต่อจักษุแพทย์ ถ้า
ควบคุมความดันล้กตาทีส
่ ้งไม่ได้ผล (ผ้ป
้ ่ วยมี
อาการปวดตาตลอด)
มี secondary bleeding ซึง่ มักจะเกิดวันที ่ 2 - 5
เลือดออกเต็มหรือเกือบเต็มช่องหน้าตา
Ultraviolet keratopathy
ผ้้ป่วยมักมีประวัติเชือ
่ มเหล็กมาก่อนประมาณ 6 - 12 ชัว
่ โมง มัก
มาหาเวลาคำา
่ หลังเลิกงาน และมีอาการ, อาการแสดงทัง้ 2 ตา
อาการ ปวดตา ร้ส
้ ึกคล้ายมีอะไรในตา นำา
้ ตาไหล ส้้แสงไม่ได้
อาการแสดงสำาคัญ กระจกตาเป็ นจุด ๆ ติดสีฟล้ออเรสซีน
กระจายทัว
่ กระจกตา
อาการแสดง เปลือกตาบวม ตาแดง
การตรวจเพิม
่ เติม 1. หยอดยา cycloplegic เช่น 1 - 2%
cyclopentolate (ถ้ามี)
2. ป้ ายยาปฏิชีวนะขีผ
้ งึ้ หลังปิ ดตาแน่น 24 ชัว
่ โมง ทัง้ 2 ตา ถ้าผ้้ป่วย
มาคนเดียวอาจปิ ดตาข้างทีเ่ ป็ นมากกว่า และให้ป้ายยาตาปฏิชีวนะอีก
ข้างเมือ
่ กลับบ้าน วันละ 4 ครัง้
3. ยาแก้ปวด
4. นัดเปิ ดตาวันร่งุ ขึน
้ ถ้าดีขึน
้ ให้ยาหยอดตา
ปฏิชีวนะต่ออีก 1 - 2 วัน
การรักษา1. รับไว้ในโรงพยาบาล
2. ครอบ eye shield
3. หยอดยา 1 % atropine เช้า-เย็น
4. กรณีพบเป็ น
เชือ
้ แบคทีเรีย
1. แ ผ ล ข น า ด เ ล็ก ก ว่า 2 มิล ลิเ ม ต ร ห ย อ ด
ciprofloxacin (ciloxan ) ทุ ก 1 ชั่ ว โ ม ง ห รื อ
------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------
บรรณานุกรม
2. Rhee DJ, Pyfer MF. The Wills Eye Manual : Office and
Emergency Room Diagnosis and Treatment of eye Disease.
3 . ed. Philadelphia : Lippincott Williams and Wilkins, 1999.
rd
3. Deutsch TA, Feller DB. Paton and Goldberg's Management
of Ocular injuries. 2 . Ed. Philadelphia : WB Saunders,
nd
1985.