Professional Documents
Culture Documents
หัตถการจำาเป็นทางตาสำาหรับแพทย์เวชปฎิบัติทัว
่ ไป
. .
ผศ นพ สุเรนทร์ วิริยะเสถียรกุล
ร่ปที ่ 1 แสดงถึงโครงสร้างของท่อนำา
้ ตา
อุปกรณ์
1. ยาชาหยอดตา
2. Syringe ขนาด 2 ml.
3. นำา้ เกลือ
4. เข็มเบอร์ 23-25 ทีฝ
่ นปลายและดัดส่วนปลายเข็มเป็นมุม 45 องศา ยาวประมาณ 1
เซนติเมตร (irrigation canula)
5. สำาลีแห้ง
6.Punctum dilator
ขัน
้ ตอนการปฎิบัติ
1. หยอดยาชาในตาข้างทีจ
่ ะตรวจ
5. การแปลผล เมือ
่ ฉีดนำา
้ เกลือแล้ว ถ้ามีนำา
้ เกลือพุ่งขึน
้ มาบริเวณหัวตา แสดงว่ามีการ
ฉีกขาดของท่อนำา
้ ตา แต่ถ้าปกติจะมีนำา
้ เกลือลงคอและมีรสเค็ม
1. มีเศษขยะอย่่ทีก
่ ระจกตาหรือเยือ
่ บุตาหรืออย่่ใต้เปลือกตาบน
2. เศษโลหะทะลุล่กตาหรือไม่
3. มีการติดเชือ
้ หรือไม่
ร่ปที ่ 3 แสดงการเขีย
่ Corneal foreign body
อุปกรณ์
1. ยาชาหยอดตา
2. Forceps ปลายแหลม
3. เข็มเบอร์ 25
4. Ophthalmic drill สำาหรับ removed rust ring
ขัน
้ ตอนการปฎิบัติ
1. หยอดยาชาในตาข้างทีเ่ ศษขยะเข้าตา
2. กรณีเศษขยะมีหลายชิน
้ และติดไม่แน่นให้ล้างตาด้วยนำา
้ เกลือหรือเช็ดออกด้วยไม้พัน
สำาลี
3. กรณีเศษขยะทีเ่ ยือ
่ บุตามักจะรักษาได้ผลด้วยวิธีที ่ 2 แต่ถ้าติดอย่่ใต้เปลือกตาจะต้อง
พลิกหนังตาบนด่ทุกครัง้ แล้วเขีย
่ ออกด้วยเข็มหรือคีบออกด้วย forceps ปลายแหลม
4. กรณีเศษเหล็กฝั งทีก
่ ระจกตาให้เขีย
่ ออกด้วยเข็มเบอร์ 25 ต่อกับไซริงค์ ถ้ามีสนิม
5. ถ้าไม่มีการติดเชือ
้ ให้รักษาเช่นเดียวกับ corneal abrasion แต่ถ้ามีการติดเชือ
้
มาก ถ้าส่องไฟไปทีก
่ ระจกตา จะตรวจพบมี irregular corneal light reflex หรือย้อมติด
สี fluorescein
อุปกรณ์
1. ยาชาหยอดตา
3. ผ้าก๊อซ 2 ชิน
้
5. ยาปฎิชีวนะชนิดขีผ
้ ึง้ (antibiotic eye ointment)
ขัน
้ ตอนการปฎิบัติ
1. หยอดยาชาในตาข้างทีม
่ ี corneal abrasion
หยอดหรือป้ายยาปฎิชีวนะทีค
่ รอบคลุมเชือ
้ pseudomonas ทุก 2-4 ชัว
่ โมงแทน
4. เริม
่ ต้นปิ ด pressure patching โดยวาง eye pad 1 ชิน
้ บนตาทีห
่ ลับ
เพือ
่ ป้องกันไม่ให้กระพริบตา
6. นัดติดตามผล 24 ชัว
่ โมง ถ้า corneal abrasion ลดลงและไม่มีการติดเชือ
้
การติดเชือ
้ แทรกซ้อน ก็ให้เปิ ดตาและรักษาต่อไปแบบ corneal ulcer
จากขอบตา โดยส่วนใหญ่โรคนีจ
้ ะหายได้เองหรือตอบสนองดีต่อการประคบนำา
้ อุ่น จะทำา
incision เมือ
่ มีขนาดใหญ่ขึน
้
ร่ปที ่ 5 แสดงถึงโครงสร้างของเปลือกตา
อุปกรณ์
1. ยาชาหยอดตา
6. Curette
ขัน
้ ตอนการปฎิบัติ
1. ให้ผ้่ป่วยนอนราบบนเตียง
2. หยอดยาชาในตาข้างทีจ
่ ะเจาะ ถ้าเป็นเด็กเล็กต้องดมยาสลบ
ไฟฟ้าด้วย
ปรับไปทางบวก ส่วนคนสายตาสัน
้ จะต้องปรับไปทางลบ เพือ
่ ทีจ
่ ะปรับโฟกัสได้
ชัดเจน เมือ
่ มองผ่านเลนส์ทีต
่ ัง้ ทีศ
่ ่นย์ จะให้ภาพทีข
่ ยาย 15 เท่า (เป็น
angular magnification ซึง่ เปรียบเทียบทีร
่ ะยะ 25 ซม.) เป็น
ซึง่ จะมีหลายแบบเช่น
• Slit เพือ
่ ด่ว่าพยาธิสภาพบนจอประสาทตาน่นหรือบุุมลงไป ความ
ของเส้นเลือด โดยจะเพิม
่ ขีดละ 0.2 มิลลิเมตร
สามารถปรับความเข้มของแสงได้
2. ขัน
้ ตอนการตรวจ Direct ophthalmoscope
การช่วยให้ตรวจง่ายขึน
้ วิธีหนึง่ คือ การใช้ยาหยอดตาขยายม่านตา (pupillary
dilation) โดยจะใช้ยาร่วมกันระหว่าง sympathomimetic drug (2.5-10 %
phenylephrine eye drop) และ parasympatholytic drug (1%
tropicamide) จะมี rapid onset, short duration และ adequate
dilation ประมาณ 45 นาที กลับส่่ปกติใน 4-8 ชัว
่ โมง ข้อห้ามในการขยายม่านตา คือหลีก
เลีย
่ งในกรณีทีม
่ ี anterior chamber ้ มาก,
ตืน กรณีใช้ Iris-supported
intraocular lens หรือกรณีทีก
่ ำาลัง observe อาการทางระบบประสาทอย่่
ขัน
้ ตอนทีค
่ วรปฏิบัติมีดังนี ้
1. ควรอธิบายให้ผ้่ป่วยเข้าใจและให้ความร่วมมือ ไม่ควรใช้เวลาตรวจนานเกินไป
ขวาของผ้่ป่วย ส่วนตาซ้ายก็ปฎิบัติทำานองเดียวกัน
4. ใช้มือข้างทีจ
่ ะตรวจจับด้ามของเครือ
่ งมือ โดยใช้นิว้ ชีเ้ ลือก aperture ทีต
่ ้องการและ
ใช้นิว้ ชีป
้ รับ lens selection disc หรือ rekoss disk ไปทีต
่ ำาแหน่งเลขศ่นย์
5. ใช้มืออีกข้างทีว
่ ่างช่วยดึงหนังตาบนขึน
้ ส่วนมือทีถ
่ ือด้ามของ direct
ophthalmoscope ให้เปิ ดไฟ แล้วมองผ่าน aperture เล็งหา pupil จาก
ร่ม่านตาของผ้่ป่วย ให้อย่่ในแนวเดียวกันเสมอไม่ว่าจะตรวจบริเวณใดของจอประสาทตา
ก็ตาม ต้องเคลือ
่ นไหวในลักษณะทีเ่ ป็น axis เดียวกันเสมอ
8. เมือ
่ เข้าใกล้ตาของผ้่ป่วย เราจะเริม
่ เห็น retina แต่ยังไม่ชัด จะต้องเริม
่ ปรับ
สามารถทำาได้โดย
ทีจ
่ อประสาทตาลดลงด้วย
9.3 พยายามส่องลำาแสงไปทีขอบ
่ pupil มากกว่า center ของ pupil ซึงจะต้
่ อง
อาศัยการฝึ กฝน
10.1 เริม
่ จากการตรวจ optic disc, peripapillary, retinal blood
vessels
10.2 ส่วน blood vessel จะด่ไปพร้อมกับ background เริม
่ จาก
superotemporal quadrant
10.3 จะด่ macula เป็นลำาดับสุดท้าย โดยอาจให้ผ้่ป่วยเปลีย
่ นจากการ fix ที ่
เข้าใจและด่แลผ้่ป่วยอย่างต่อเนือ
่ งได้ จักษุแพทย์จะมีการเขียน drawing chart
ของ retina และ optic disc โดยกำาหนด color code แทนสิง่ ทีต
่ รวจพบ
โดยเฉพาะ แต่ในระดับของแพทย์ทัว
่ ไปจะเน้นเฉพาะการเขียนสิง่ ทีต
่ รวจพบลงบน
------------------------------------------------------------------------------------------
---------------------------------------
เอกสารอ้างอิง
2530.