You are on page 1of 4

Pop Quiz by pete4536

• โขนไทย UNESCO

- ดราม่าไทย-กัมพูชา โดยไทยจะนาโขนขึ้นเป็นมรดกโลกในด้านของ “มรดกโลกที่จับต้องไม่ได้” แต่กัมพูชาไม่ยอมเพราะบอกว่า


กัมพูชาเป็นเจ้าของโขน

- อ.จตุพร รัตนวราหะ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง เคยกล่าวไว้ว่า “ไทยเป็นผู้จัดสอนศิลปะการแสดงแขนงนี้แก่กัมพูชา


เองแท้ๆ” โดยให้เหตุผลว่า

1. โขนทางไทยมีหลักฐานชัดเจนว่าช่วงต้นรัตนโกสินทร์ราชสานักสยามส่งคนไปสอนให้ราชสานักเขมรเอง

2. อะไรที่เขมรอ้างว่าไทยรับไปจากเขมร มันก็มีความเป็นไปได้เท่าๆกันว่าเขมรรับไปจากไทย

3. เขมรมีปมด้อยในใจว่าเป็นประเทศที่เคยยิ่งใหญ่แต่ปัจจุบันกลายเป็นประเทศลูกไล่ จึงพยายามสร้างเรื่องต่างๆขึ้นมาเชิดชูตนเอง
ว่าเป็นเจ้าของวัฒนธรรมเป็นผู้มีประวัติศาสตร์เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดในแถบนี้

4. แม้แต่คนไทยถ้ามีชื่อเสียงโด่งดังและพอจะอ้างได้เขมรก็อ้างว่าเป็นคนเขมร แม้กระทั่งจาพนมเขมรก็อ้างว่าเป็ นคนเขมรเพราะ


เกิดสุรินทร์ ทั้งๆที่จาพนมยืนยันว่าตนเองเป็นชาวกุย ส่วย

5. มวยไทยเองเขมรก็พยายามจะอ้างว่าไม่ใช่ของไทย คราวก่อนก็อ้างหน้าด้านๆว่าในนครวัดมีการจารึกรูปแม่ไม้มวยไทยอยู่ ดังนั้น


เมื่อนครวัดเก่าแก่กว่าสุโขทัยก็ย่อมแปลว่ามวยไทยไม่ได้เกิดขึ้นจากคนไทย และบอกให้เปลี่ยนชื่อเรียกจากมวยไทยเป็นมวยสุวรรณ
ภูมิ อันหมายถึงมวยของคนทั้งสุวรรณภูมิไม่ใช่มวยเฉพาะของไทย แต่คากล่าวอ้างแบบเอาแต่ได้นี้ทั้งโลกก็ไม่มีใครสนใจและจาง
หายไปกับสายลม

6. บรรดาครูศิลปวัฒนธรรมของเขมรดั้งเดิมไม่มีเหลือแล้วเพราะโดนสังหารไปหมดช่วง Killing Field ซึ่งหลังเขมรสงบก็ไทยนี่


แหละที่ช่วยส่งครูทางศิลปไปช่วยฟื้นให้เขมร

• การทูตปิงปอง

- การทูตปิงปอง เป็นการแข่งขันปิงปองระหว่างสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2514 เพื่อละลาย


ความสัมพันธ์จีน-อเมริกัน และปูทางสู่การเยือนประเทศจีนของริชาร์ด นิกสัน พ.ศ. 2515

- เหตุเกิดจากการที่ สหรัฐอเมริกา มองจีนเป็น ประเทศผู้รุกรานและบังคับใช้นโยบายคว่าประเทศจีนตั้งแต่ช่วงสงครามเกาหลี ในปี


พ.ศ. 2493 และสหรัฐสนับสนุนประเทศไต้หวันในเรื่องของกีฬาต่างๆ โดยจีนได้ถอนตัวจากสมาชิกโอลิมปิกสากล และไม่เข้าร่วม
การแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศของสหพันธ์กีฬาอีก 15 องค์กร เป็นเวลานานถึง 20 ปี

- งานที่เกิดเหตุการณ์ การทูตปิงปอง เกิดขึ้นที่ "การแข่งขันปิงปองชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 31 ที่จัดขึ้นในนะโงะยะ ประเทศญี่ปุ่น" ใน


วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2514
- นายกรัฐมนตรีโจว เอิน ไหล ของจีนได้เสนอให้ส่งนั กกีฬาปิงปองของจีนเข้าไปร่วมการแข่งขันด้วย ซึ่งทาให้เกิดเหตุการณ์
ประวัติศาสตร์ขึ้นเมื่อนักปิงปองจีนและสหรัฐ จับมือกันด้วยไมตรีจิต เจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศพบปะเจรจากันฉันมิตร และนัก
ปิงปองสหรัฐยังแสดงความปรารถนาที่จะมีโอกาสไปแข่งปิงปองในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีจากฝ่ายสหรัฐ ทาให้
เหมา เจ๋อตุง อนุมัติการเชิญทีมปิงปองสหรัฐไปเยือนจีนในทันที

- ทีมสหรัฐที่ไปแข่งปิงปองได้รับเชิญไปเยี่ยมชมประเทศจีนในวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2514 โดยผู้เล่นปิงปองชาวอเมริกัน 11 คน


ถูกรองรับในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ (สมัย เหมา เจ๋อตุง)

- เหตุการณ์นี้ทาให้ในปี พ.ศ. 2531 ปิงปองกลายเป็นส่วนหนึ่งของกีฬาโอลิมปิก

- การทูตปิงปองมีการอ้างอิงในปี พ.ศ. 2537 ในภาพยนตร์เรื่อง ฟอร์เรสท์ กัมพ์

• เกาะรัตนโกสินทร์จัดผังเมืองใหม่

- กระทรวงมหาดไทยจะถูกย้ายไปอยู่ทบี่ ริเวณสนามกอล์ฟชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

- กระทรวงคมนาคม จองที่ดินรถไฟย่านบางซือ่ สร้างอาคารใหม่

- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เล็งเช่าพื้นที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 3 หมื่นตารางเมตร

- กทม. มีแผนจัดระเบียบอาคารและสิ่งปลูกสร้าง และการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อ ให้สอดรับกับแผนพัฒนา


กทม.ระยะ 20 ปี ที่กาหนดวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ 2575 ให้ กทม.เป็นมหานครแห่งเอเชีย

- สานักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ว่าจ้าง


จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปรับปรุงแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ใหม่ฉบับปี 2560 โดยขยายขอบเขตพื้นที่
ครอบคลุม

1.กรุงรัตนโกสินทร์ชั้นใน

2.กรุงรัตนโกสินทร์ชั้นนอก

3.ฝั่งธนบุรี ตรงข้ามบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์

4.พื้นที่ต่อเนื่องบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นนอก ตั้งแต่แนวคลองรอบกรุงถึงแนวคลองผดุงกรุงเกษม

5.บริเวณพื้นที่ต่อเนื่องบริเวณฝั่งธนบุรีตรงข้ามกรุงรัตนโกสินทร์
- กทม. กาลังทยอยย้ายหน่วยงานในสังกัดบางส่วนไปอยู่ตึกใหม่ ในศาลาว่าการ กทม. 2 ดินแดง ส่วนในอนาคต ศาลาว่าการ กทม.
1 จะอนุรักษ์ไว้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์

*** ในส่วนของถนนราชดาเนินและพื้นที่ในบริเวณที่ ต่อเนื่องจะมีการพัฒนาควบคู่กับการอนุรักษ์ เนื่องจากเป็นสถานที่สาคัญและ


เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ จะทาให้เป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม และโบราณสถานของประเทศไทย เหมือนกับ
ถนนฌ็องเซลิเซ่ของประเทศฝรั่งเศส ***

- มีแนวคิดจะให้พื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ชั้นในและชั้นนอกปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นรูปแบบเดียวกัน เช่น ทาสีอาคารเป็นโทนเดียวกัน


ทั้งหมด คือ สีเหลืองอ่อนและสีเทาอ่อน ส่วนสีหลังคาให้เป็นสีน้าตาลแดงเหมือนกันทั้งหมด

• สามก๊ก

- มีการแปลภาษาไทยครั้งแรก โดยเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ในสมัยรัชกาลที่ 1

- วุยก๊ก ก่อตั้งจากพระเจ้าโจผีโค้นล่มราชวงศ์ฮั่น ปกครองโดยโจโฉ มีจักรพรรดิสืบต่อกันมา 5 พระองค์ ถูกโค่นโดยกองทัพของพระ


เจ้าสุมาเอี๋ยน

- จ๊กก๊ก ปกครองโดยเล่าปี่ มีจักรพรรดิสืบต่อกันมา 2 พระองค์ ถูกโค่นโดยกองทัพของวุยก๊ก

- ง่อก๊ก ปกครองโดยซุนกวน มีจักรพรรดิสืบต่อกันมา 4 พระองค์ ถูกโค่นโดยกองทัพของพระเจ้าสุมาเอี๋ยน

- หลังจากจบสามก๊ก ได้มาการสถาปนาราชวงศ์จิ้นขึน้ มา

• ญี่ปุ่น ซามูไร ฮาราคีรี คว้านท้อง

- ฮาคาคีรี มีอีกชื่อคือ “เซ็ปปุกุ” คือ พิธีกรรมการจบชีวิตที่มีเกียรติสูงสุดโดยการคว้านท้อง พิธีนี้ทากันเฉพาะในหมู่ของซามูไร


เท่านั้น เนื่องจากพิธีการจบชีวิตนี้ทาให้พวกเขาสามารถกู้เกียรติยศศักดิ์ศรีคืนแก่คนในตระกูลของตนที่ยังมีชีวิตอยู่

- เซ็ปปุกุไม่ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่เป็นเพียงการทาให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรงต่อตัวเองเท่านั้น โดยจะมีผู้ที่ถูกเรียกว่า ไค


ชะคุนิน (Kaishakunin) ทาหน้าที่เป็นผู้จบชีวิตซามูไร โดยการสะบั้นศีรษะของเขาหลังจากที่เขาเสร็จสิ้นการทาเซ็ปปุกุ

- เซ็ปปุกุ แทงจาก ขวาไปซ้าย (ซ้ายไปขวาถ้ามองในมุมมองของตัวเอง)

- การกระทานี้สามารถทาได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุญาตและความยินยอมจากเจ้านาย (ยกเว้นกรณีที่ทาเพื่อหนีจากการจับกุม
ระหว่างที่มีศึกสงคราม)
- เซ็ปปุกุมี 3 ประเภทหลักๆ คือ

1. จูมอนจิ กิริ (Jumonji Giri)

- ไม่มี ไคชะคุนิน

- ผู้กระทาจะลงดาบเป็นแนวตั้งบนหน้าท้องหลังจากที่ตัดเป็นแนวนอนแล้ว หลังจากที่การทาเซ็ปปุกุจบลง ผู้กระทาจะนั่งอย่างสงบ


นิ่งและปล่อยให้เลือดไหลออกมาจนกระทั่งลมหายใจหมดลงและจากไปโดยการใช้มือปิดบังใบหน้าของตนเองเอาไว้

2. คันชิ (Kanshi)

- เป็นการตายเพื่อแสดงการคัดค้าน

- ผู้กระทาจะทาการกรีดใบมีดลึกลงบนหน้าท้องในแนวนอน แล้วรีบพันแผลของตัวเองเอาไว้ จากนั้นเขาจะไปปรากฏตัวต่อหน้า


เจ้านายของเขาพร้อมบอกกล่าวถึงการคันค้านที่มีต่อการตัดสินใจของเจ้านาย และเปิดเผยแผลฉกรรจ์นั้นให้ปรากฏแก่สายตา

- การกระทาแบบนี้ต่างจาก ฟุนชิ

3. จิไก (Jigai)

- เป็นพิธีการจบชีวิตของเพศหญิง

- ทาเพื่อรักษาเกียรติของตนยามที่กองทัพใกล้จะพ่ายแพ้หรือเพื่อป้องกันการถูกข่มขืน

- ผู้กระทาจะมัดเข่าของเธอเข้าด้วยกันเพื่อที่เวลาคนมาพบร่างแล้วจะได้อยู่ในสภาพที่สง่างามและเพื่อป้องกันการกระตุกหลังจากที่
เสียชีวิตแล้ว จากนั้นเธอจะทาการตัดเส้นเลือดบริเวณคอด้วยการลงมีดเพียงหนึ่งครั้ง จุดประสงค์หลักคื อเพื่อจบชีวิตอย่างรวดเร็ว
และแน่นอนเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม

You might also like